star

ผู้เขียนบทความ: OOOPEN Lab | 2025-10-17

ใช้ OOOPEN Lab และ Bill AI เพื่อสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ได้ง่าย ๆ

ใช้ OOOPEN Lab และ Bill AI เพื่อสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ได้ง่าย ๆ

โปรเจกต์นี้เกิดจากความร่วมมือของทีมงานและอาสาสมัครจาก Saturday School Foundation

ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านการศึกษาที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย มุ่งส่งเสริมให้เด็ก ๆ

ได้เรียนรู้อย่างสนุกและเติบโตผ่านการเรียนรู้ร่วมกับอาสาสมัครในวันเสาร์

ครั้งนี้ทีมงานได้ใช้ OOOPEN Lab เพื่อสร้างแบบสอบถามเชิงโต้ตอบ

สำรวจสไตล์การเรียนรู้ที่ใช่คุณ” ที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจสไตล์การเรียนรู้ของตัวเอง

ผ่านประสบการณ์ที่สนุกและเข้าถึงง่าย

ในงาน Big Day ครูและอาสาสมัครได้นำกิจกรรมนี้ไปใช้จริง โดยพาเด็ก ๆ ทำแบบสอบถามที่บูธ คอยแนะนำขั้นตอน อธิบายคำถาม และชวนโต้ตอบกันอย่างใกล้ชิด

ต่อไปนี้คือเรื่องราวและประสบการณ์จากทีมงานในการสร้างโปรเจกต์นี้.

ใช้แบบสอบถามเพื่อช่วยครูเข้าใจสไตล์การเรียนรู้ของเด็ก ๆ ได้ลึกขึ้น

ทีมงานอาสาสมัครทำแบบสอบถามนี้ขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญ 3 ด้าน คือ:

  1. รู้เขา รู้เรา: เพื่อให้เด็กๆ และอาสาสมัคร เข้าใจสไตล์การเรียนรู้ของตนเอง (เช่น ถนัดเรียนผ่านการลงมือทำ, การอ่าน/เขียน, การฟัง หรือการมองเห็น) ซึ่งจะสามารถนำไป ปรับใช้ได้จริง ในชีวิตประจำวัน เช่น การอ่านหนังสือสอบ หรือการเตรียมตัวเรียน
  2. ออกแบบเครื่องมือวัด Growth Mindset: เราจะนำผลลัพธ์ที่ได้ไปใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการ ออกแบบและปรับปรุงเครื่องมือวัดผล เพื่อใช้ ประเมินพัฒนาการด้าน Growth Mindset ของเด็กๆ ที่เข้าร่วมโครงการอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
  3. ออกแบบการสอนให้ตรงจุด: นอกจากนี้ เรายังได้ข้อมูลว่าเด็กๆ ในแต่ละช่วงวัยถนัดการเรียนรู้แบบใด เพื่อนำไป ออกแบบและปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงวิธีการวัดประเมินผลของโครงการ Saturday School ให้มีความ เหมาะสม กับรูปแบบการเรียนรู้ของเด็กๆ ในแต่ละช่วงวัยมากยิ่งขึ้น

เราตั้งใจสื่อสารกับ กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ เด็ก ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ Saturday School ซึ่งมีช่วงอายุตั้งแต่ 6 ถึง 15 ปี นอกเหนือจากนั้นเรายังออกแบบโปรเจกต์ให้ เปิดกว้าง เพื่อสื่อสารและเป็นประโยชน์กับผู้ใหญ่ด้วยโดยเฉพาะ:

  • อาสาสมัคร ที่มาร่วมสอนในโครงการ
  • บุคคลทั่วไป หรือผู้ที่สนใจด้านการเรียนรู้ ที่ต้องการใช้แบบสอบถามนี้เพื่อ สำรวจและทำความเข้าใจสไตล์การเรียนรู้ของตนเอง ได้เช่นกัน

AI สร้างโครงสร้างคำถามได้รวดเร็ว ช่วยยกระดับคุณภาพของแบบสอบถาม

ที่เราตัดสินใจเลือกใช้ OOOPEN Lab เป็นเพราะทีมงานอาสาสมัคร คุ้นเคยและประทับใจ กับแบบทดสอบ (Quiz) ต่าง ๆ ที่ถูกสร้างจากแพลตฟอร์มนี้อยู่แล้ว

OOOPEN Lab มีจุดเด่นที่ทำให้เรามั่นใจว่าเหมาะสมกับโปรเจกต์สำรวจสไตล์การเรียนรู้ของเรา:

  1. ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน: โครงสร้างของแบบสอบถามที่นี่ถูกออกแบบมาให้ เข้าใจง่ายมาก ทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นเด็ก ๆ สามารถ ใช้งานได้ด้วยตัวเอง โดยไม่มีความสับสน
  2. ดึงดูดและแชร์ต่อได้: เด็ก ๆ สามารถ บันทึกผล สไตล์การเรียนรู้ที่ได้ และยังสามารถ แชร์ผลลัพธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ได้ทันที ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ ชักชวนเพื่อน ๆ ให้มาร่วมสำรวจตัวเองได้อีกด้วย

ทีมงานอาสาสมัครเลือกใช้ “โมดูลแบบทดสอบจิตวิทยา” ในการสร้างโปรเจกต์นี้ เนื่องจากพิจารณาแล้วว่า เทมเพลตนี้มีความใกล้เคียง และสามารถนำมาปรับใช้กับ แบบสอบถามวัดสไตล์การเรียนรู้ ได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับเทมเพลตอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีให้เลือกใน OOOPEN Lab

ฟีเจอร์ที่เราประทับใจและรู้สึกว่าสะดวกเป็นพิเศษ คือ ฟีเจอร์การสร้างชุดคำถามด้วย AI ของ OOOPEN Lab ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ทีมงานสามารถ สร้างชุดคำถามได้อย่างรวดเร็วมาก  ถ้าเราไม่มีความต้องการปรับแก้เฉพาะเจาะจงอะไรมาก เช่น ไม่ต้องเสียเวลามาปรับตัวเลือกคำถามบางข้อ หรือไม่ต้องมานั่งเกลาภาษาให้เหมาะสมกับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ฟีเจอร์ AI ก็ช่วยให้เราประหยัดเวลา และได้แบบสอบถามที่พร้อมใช้งานได้อย่างฉับไว

ทีมงานได้ใช้เครื่องมือ AI ของ OOOPEN Lab รวมถึงใช้ Gemini เข้ามาช่วยในการพัฒนาโปรเจกต์นี้ แม้ว่าเราจะมีชุดคำถามและคำตอบสำหรับการสำรวจสไตล์การเรียนรู้อยู่แล้ว แต่เราเลือกใช้ AI เพื่อ สร้างชุดคำถามทั้งหมดออกมาอีกครั้ง เพื่อนำมา เปรียบเทียบ กับชุดเดิม และ ปรับปรุงคุณภาพ ของแบบสอบถามให้ดียิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการใช้ Gemini ในการ ปรับปรุงรูปประโยค ให้มีความเข้าใจง่ายและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเด็ก ๆ 

ขั้นตอนที่รู้สึกว่า AI มีประโยชน์และช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุด คือการช่วยสร้างเทมเพลตและโครงสร้างเริ่มต้นของแบบสอบถาม แทนที่จะต้องเสียเวลามาสร้าง แต่ละหน้า หรือ แต่ละตัวเลือก ของคำถามด้วยตัวเอง เราใช้ชุดคำถามที่ AI สร้างขึ้นมาเป็น เทมเพลตหลัก จากนั้นจึง เพิ่มคำถามและผลลัพธ์แบบใหม่ โดยอ้างอิงจากฟีดแบ็กของทีมงาน ทำให้การทำงานของเรามีความ รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น

ผลการทดสอบสอดคล้องกับงานวิจัย ยืนยันความน่าเชื่อถือของแบบสอบถาม

เราใช้การเปรียบเทียบความสอดคล้องของผลลัพธ์ เป็นตัวชี้วัดหลักในการประเมินผล โดยนำผลการตอบแบบสอบถามเรื่องสไตล์การเรียนรู้ที่ได้มาเทียบกับข้อมูลจากเครื่องมือวัดผลอื่น ๆ ที่มีอยู่แล้วในโครงการ หากผลลัพธ์มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน ก็ถือว่าแบบสอบถามของเรามีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบในการออกแบบการเรียนรู้ได้จริง

ผลการประเมินแสดงให้เห็นความสอดคล้องที่ชัดเจน เช่น เราพบว่าเด็ก ๆ ในช่วงวัยมัธยม จะมีแนวโน้มที่จะถนัดการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Kinesthetic) และการอ่านและการเขียน (Read/Write) มากกว่า เด็ก ๆ ในช่วงวัยประถมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งยืนยันว่าข้อมูลที่เราได้มามีความถูกต้องและสะท้อนลักษณะการเรียนรู้ตามช่วงวัยของผู้เรียนจริง

สิ่งที่ทำให้ทีมงานรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษคือ ปฏิกิริยาของเด็กๆ ในวัน Big Day (30 สิงหาคม 2568) ซึ่งเป็นวันที่เด็ก ๆ นำผลงานได้ที่เรียนรู้ตลอดโครงการ Saturday School Bangkok Season 6 มาจัดแสดง

เราได้นำแบบทดสอบไปให้เด็ก ๆ ลองทำในวันนั้นเลย โดยมีครูหรืออาสาสมัครคอยแนะนำขั้นตอนและช่วยอธิบายคำถามให้เข้าใจตรงกัน และสิ่งที่เห็นคือ เด็ก ๆ พากันมาที่บูธพร้อมกับเพื่อน ๆ เพื่อทำแบบทดสอบ:

  • เด็ก ๆ พากันมาที่บูธพร้อมกับเพื่อน ๆ เพื่อทำแบบทดสอบ
  • พวกเขาไม่ได้แค่ทำแบบสอบถามเฉย ๆ แต่มีการแชร์คำตอบ และเปรียบเทียบผลลัพธ์สไตล์การเรียนรู้ของตัวเองกับเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนานและเป็นธรรมชาติ

การได้เห็นเด็ก ๆ นำผลลัพธ์ที่ได้ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกันทันทีแบบนั้น ทำให้เรารู้สึกว่าโปรเจกต์นี้ได้ เข้าถึงและสร้างประโยชน์ ให้กับผู้เรียนได้อย่างแท้จริง
โปรเจกต์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อ ใช้งานโดยตรงในงานวัน Big Day (วันที่เด็กๆ นำผลงานมาจัดแสดง) ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของโครงการ Saturday School Bangkok Season 6 ทำให้ ไม่ได้มีการโปรโมตผ่านช่องทางสาธารณะอื่น ๆ เพิ่มเติม

สองทริคที่ใช้ได้จริง: ศึกษาตัวอย่าง แล้วให้ AI ช่วยเริ่มต้น

ยังไม่มีหัวข้อใหม่ที่อยากลองทำ

แนะนำ 2 เทคนิคหลักที่ทีมเราใช้และเห็นผลจริง

  • สำรวจและศึกษาตัวอย่าง: ลองไปเล่นแบบสอบถามหรือควิซของคนอื่นหลาย ๆ รูปแบบ เพื่อดูว่าพวกเขาออกแบบโครงสร้าง คำถาม และผลลัพธ์อย่างไร เมื่อเห็นตัวอย่างที่หลากหลายแล้ว คุณจะสามารถนำมา ปรับใช้และสร้างสรรค์ ให้เข้ากับบริบทของโครงการคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
  • ใช้ AI ช่วยเริ่มต้น: อย่าลังเลที่จะ ใช้เครื่องมือ AI ช่วยสร้างแบบสอบถาม ในขั้นตอนเริ่มต้น AI สามารถสร้างชุดคำถามหรือร่างเทมเพลตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้คุณ ประหยัดเวลา ในการตั้งต้น และมีเวลาไปเน้นการปรับปรุงรายละเอียดให้มีคุณภาพสูงขึ้นได้อีกมาก

OOOPEN Lab คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณสร้างแบบสอบถามหรือควิซได้อย่างรวดเร็วด้วย AI และยังแชร์ผลลัพธ์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนได้อย่างสนุกสนานและง่ายดาย


อาจจะสนใจ…

  • แบบทดสอบจิตวิทยาของ Xinaqua สร้างกระแสไวรัล มียอดเล่นกว่า 380,000 ครั้ง และถูกสื่อรายงาน
    ลองดู
  • กว่า 150,000 คนเล่นเกมรณรงค์ “การทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง”
    ลองดู
  • 3 โปรเจกต์ปังทะลุหมื่น+ สูงสุดเกิน 90K: SQOPIEN ทำให้แบบทดสอบไวรัลได้ยังไงโดยไม่ต้องยิงแอด
    ลองดู

ทำให้การสื่อสารสนุกสนาน

กลับไปหน้าแรกเกี่ยวกับเราเกี่ยวกับเราข้อกำหนดในการให้บริการและ
นโยบายความเป็นส่วนตัว
รายงานการละเมิด

Copyright © 2025 OOOPEN Lab